วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จับเมียเจ้าชู้ นิทานชาดก

คนที่ฉลาด มีไหวพริบ ปฏิภาณ ย่อมรู้ทันคนอื่น ไม่ถูกหลอกได้ง่าย ๆ คนที่ไม่ทันคนอื่นย่อมถูกหลอกอยู่ร่ำไป นิทานเรื่องนี้มาใน "คหปติชาดก ทุกนิบาต"

เมียของผู้มีฐานะดีคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงมักมากในกาม มีใจโลเลไม่ชื่อตรงต่อผู้เป็นผัว นางได้แอบเล่นชู้กับผู้ใหญ่บ้าน อยู่เสมอเมื่อมีโอกาส เมื่อผู้เป็นผัวทราบก็พยายามจับผิด

ในฤดูฝน ข้าวกล้ายังไม่ทันสุก ก็เกิดอาหารขาดแคลน ลูกบ้านจึงปรึกษากันว่า

"นี่ก็เหลืออีกตั้งเดือนหนึ่ง จึงจะได้เก็บเกี่ยว แต่ตอนนี้อาหารบ้านเรามันขาดแคลน พวกเราจะทำอย่างไรกันดี ใครมีข้อเสนอดี ๆ บ้าง"

"พวกเราควรไปขอวัวท่านผู้ใหญ่มาเป็นอาหาร เก็บเกี่ยวเสร็จแล้วค่อยรวบรวมเอาข้าวเปลือกไปใช้หนี้แทนวัว" คนหนึ่งเสนอขึ้นในที่ประชุม

"เออ...ดี ๆ...เออ...เข้าท่า ๆ..." เสียงสนับสนุนดังแซงแซ่

แล้วชาวบ้านก็พากันไปหาผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งก็สามารถตกลงกันได้ด้วยดี



ต่อมาวันหนึ่งชายผู้มีเมียเล่นชู้จึงคิดจะจับเมียชู้ให้ได้ จึงทำเป็นออกไปทำธุระข้างนอก เพื่อหลอกให้เมียตายใจ

ฝ่ายชายชู้ก็คอยโอกาสอยู่แล้ว จึงย่องเข้าไปในบ้าน เหมือนแมวจะขโมยกินปลาย่าง แล้วทั้งสองก็บรรเลงเพลงชู้กันอย่างสนุกสนานสุดเหวี่ยงในขณะที่นั่งพักอยู่นั้น ผู้เป็นเมียชำเลืองเห็นผู้เป็นผัว ซึ่งกำลังเดินเข้าประตูบ้านพอดีจึงรีบบอกชู้

"โอ้ย... แย่แน่ ๆ คราวนี้ จะทำอย่างไรดีนี่" ชายชู้ตกใจกลัวจนทำอะไรไม่ถูกหนีก็ไม่ทัน

"พี่ผู้ใหญ่ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันมีวิธี" หญิงชู้กล่าว

"มีวิธีอะไร รีบว่ามาเลย เดี๋ยวไม่ทันการณ์" ชายชู้เร่ง

"คือพวกเราต่างก็ได้เอาเนื้อวัวของพี่ผู้ใหญ่มากิน พี่ผู้ใหญ่ก็ทำทีเป็นมาทวงหนี้ค่าเนื้อวัวสิ คือพี่ผู้ใหญ่ไปยืนกลางเรือน เดี๋ยวฉันจะไปยืนอยู่ที่ประตูยุ้งข้าว แล้วฉันจะร้องบอกพี่ผู้ใหญ่ว่าข้าวเปลือกไม่มี " หญิงชู้อธิบายยุทธวิธีหลอกผัวให้ชู้ฟัง

ผู้ใหญ่บ้านผู้บ้ากามก็ทำตามที่หญิงชู้แนะนำทันที

ผ่ายผู้มีทรัพย์แต่เมียมีชู้ พอเห็นกิริยาของคนทั้งสองก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นอุบาย จึงเดินเข้าไปพูดกับคนทั้งสองอย่างรู้ทันทีว่า

"เมื่อตอนที่ไปเอาเนื้อวัวมา เราก็ตกลงกันแล้วว่าเก็บเกี่ยวเสร็จถึงจะใช้หนี้ แต่ผู้ใหญ่มาก่อนกำหนด ต้องมาเพื่อจุดประสงค์อื่นแน่ ๆ อีนังเมียตัวดี มึงก็รู้ใช่ไหมว่าในยุ้งข้าวไม่มีข้าวเปลือก แล้วยังเสือกขึ้นไปนั่งอยู่ที่ประตูยุ้งข้าว แล้วร้องว่า ข้าวเปลือกไม่มีอีก ไอ้ผู้ใหญ่ การกระทำของแกกับหญิงบัดซบคนนี้ ข้ารุ้หมดแล้ว ข้าไม่ชอบเลยจริง ๆ แกทำได้อย่างไรกัน พวกแกไม่อายชาวบ้านเขาบ้างเลยหรือ ข้าอดสูใจเหลือเกิน"

เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว เขาก็ได้บรรเลงเพลงแม่ไม้มวยไทยใส่ผู้ใหญ่บ้าน จนล้มลุกคลุกคลาน และได้บรรเลงเพลงตบใส่เมียชั่วจนระบม ด้วยความโกรธแค้นที่ถูกสวมเขา

มาชาติสุดท้าย ชายมีทรัพย์เมียมีชู้ ได้เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้า

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนที่ทำผิดย่อมมีพิรุธให้เห็นอยู่เสมอ ถึงจะมีอุบายอย่างไรก็ตาม ย่อมแสดงพิรุธออกมาให้เห็น การเล่นชู้ คบชู้เช่นนี้ เป็นเรื่องที่น่าละอายเป็นที่สุด เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการฆาตกรรม โทษของมันไม่ต้องรอถึงชาติหน้า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น