วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

มนต์ปลุกเสือ นิทานชาดก

คนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ รู้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วก็อวดฉลาด เมื่อเจอเหตุร้ายย่อมเอาตัวไม่รอด นิทานเรื่องนี้มาใน "สัญชีวชาดก เอกนิบาต"

เมื่อครั้งอดีตกาลที่ผันผ่านมา ณ เมืองพาราณาสี มีสำนักของอาจารย์ผู้ทิศาปาโมกข์ (แปลว่า อาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง
) คนหนึ่ง มีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจาย ลูกเจ้าหลานเธอทั้งหลายรวมทั้งเศรษฐีคนมีตังค์ทั้งหลาย ต่างก็ส่งบุตรหลานไปศึกษาเล่าเรียนยังสำนักของอาจารย์ผู้ทิศาปาโมกข์

เศรษฐีชาวเมืองพาราณาสีคนหนึ่ง มีลูกชายคนหนึ่งนามว่า "สัญชีวมาณพ" พอเจริญวัยขึ้น เศรษฐีผู้เป็นพ่อก็ปรารถนาให้ลูกชายได้เล่าเรียนเพื่อจะได้มีวิชาความรู้รักษาวงศ์ตระกูลสืบต่อไป

วันรุ่งขึ้น
เศรษฐีก็นำลูกชายไปฝากเป็นศิษย์ของอาจารย์ อาจารย์ทิศาปาโมกข์พอได้เห็นลักษณะของสัญชีวมาณพ ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นคนฉลาด จึงรับไว้เป็นศิษย์ สัญชีวมาณพเป็นศิษย์ที่ดี ตั้งอกตั้งใจเล่าเรียน ท่องบ่นตามที่อาจารย์มอบ อาจารย์สั่งด้วยความเคารพ จึงปรากฏว่าเขาเรียนได้เร็วกว่าศิษย์คนอื่น ๆ อาจารย์ทิศปาโมกข์จึงเอ่ยปากชมต่อหน้าลูกศิษย์คนอื่น ๆ ตั้ง 500 คนว่า

"สัญชีวมาณพ เป็นคนขยันและตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี ทั้งเป็นคนว่าง่าย สอนง่าย ไม่ขี้เกียจ สมควรที่จะเอาเป็นแบบอย่าง"

สัญชีวมาณพรุ้สึกปรื้มยิ่งนัก จึงตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเต็มที่ ทั้งอาจารย์ผู้ทิศาปาโมกข์ก็หวังว่าสัญชีวมาณพคงจะเป็นตัวแทนของตน เมื่อตนตายไป จึงถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ จนหมดสิ้น และได้สอนมนต์ "มนต์ชุบชีวิต" ปลุกสัตว์ที่ตายให้พื้น ซึ่งไม่เคยสอนให้แก่ใครเลย



ในกาลต่อมา สัญชีวมาณพใคร่จะทดลองวิชาที่ได้เล่าเรียนมา วันหนึ่ง เขาได้เข้าไปในป่าหาพืนกับศิษย์คนอื่น ๆ บังเอิญได้เจอซากเสือโคร่งตัวหนึ่ง เขาจึงพูดกับเพื่อน ๆ ว่า

"ใครอยากดูบ้าง นี่เราจะชุบชีวิตเสือโคร่ง อยากดูเป็นบุญตามั้ย !"

"อยากดู ...อยากดู..." เสียงเพื่อน ๆ ตอบรับพร้อมกันจนดังเซ่งแซ่


"เพื่อความปลอดภัย ขอให้ทุกคนขึ้นต้นไม้ให้สูงพอสมควร" สัญชีวมาณพบอกกับเพื่อน ๆ ส่วนตัวเองก็นั่งลงไกล้ ๆ ซากเสือโคร่ง แล้วเริ่มสาธยายมนต์ เมื่อเสร็จกระบวนพิธีจึงซัดก้อนกรวดก้อนหนึ่งไปยังซากเสือโคร่ง ชั่วครู่เดียวมันก็ลุกขึ้น และกระโจนเข้าตะปบสัญชีวมาณพ จนถึงแก่ความตาย

เพื่อน ๆ ต่างก็ตกตะลึงต่อเหตุการณ์ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยดีแล้วจึงพากันรีบลงจากต้นไม้เดินมุ่งหน้าสู่สำนัก และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อาจารย์ฟังอย่างละเอียด

"ช่างน่าเสียดายแท้ สัญชีวมาณพเป็นคนฉลาดและมีปัญญาดี แต่ขาดความรอบคอบไปหน่อย ยังไม่ได้เรียนมนต์แก้เลย ตัวเองจึงต้องพบกับความตาย" อาจารย์กล่าวด้วยความรู้สึกเสียดาย เสียใจที่ศิษย์รักมีอันเป็นไป และได้กล่าวเตือนลุกศิษย์ทั้งหลายว่า

"การคบกับคนชั่ว อันธพาลสันดาลหยาบ ย่อมจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน เหมือนกับสัญชีวมาณพที่ตายเพราะเสียโคร่งฉะนั้น"

มาชาติสุดท้าย
สัญชีวมาณพ ได้เกิดเป็นพระเจ้าอชาตศัตรู อาจารย์ผู้ทิศาปาโมกข์ ได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้า

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การทำอะไรก็ตามหากขาดความระมัดระวังรอบคอบ ผลเสียย่อมจะเกิดตามมาอย่างแน่นอน การคบกัยคนเลว อันธพาลสันดาลชั่ว ก็จะทำให้ตนเองพลอยเดือดร้อนไปด้วย คบคนเช่นใดก็ย่อมเป็นเช่นนั้น ดังสุภาษิตโบราณที่ว่า

"คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัญฑิตพาไปหาผล"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น