วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รักต่างชั้น นิทานชาดก

นิทานเรื้องนี้มาใน "สิงคาลชาดก ทุกนิบาต" ชี้ให้เห็นโทษของการไม่เจียม ไม่รู้จักประมาณตน ทะเยอทะยานเกินกำลัง

ท่ามกลางป่าใหญ่อันสมบูรณ์แห่งหนึ่ง ครอบครับราชสีห์ครอบครับหนึ่ง อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งรวมทั้งสิ้น 10 ตัว คือ พ่อแม่ พี่ตัวผู้ 7 ตัว น้องตัวเมีย 1 ตัว

ในที่ไม่ไกลจากนั้นมีถ้ำแก้วผลึกแห่งหนึ่ง เป็นที่อาศัยของสุนัขจิ้งจอก ทั้งราชสีห์ ทั้งสุนัขจิ้งจอกต่างก็อยู่ในเขตของตน ไม่ล้วงล้ำอาณาเขตของกันและกัน ทั้ง 2 ฝ่ายจึงอยุ่ในป่าเดียวกันได้อย่างสันติสุขเสมอมา

ครั้งเมื่อกาลเวลาล่วงผ่านไปโดยลำดับ พ่อแม่ราชสีห์ตายลงตามอายุขัย คงเหลือแต่ลูก 8 ตัวพี่น้อง ซึ่งต่างก็รักใคร่กลมเกลี่ยวกันดี โดยพี่ทั้ง 7 จะเป็นผู้นำอาหารให้น้องตัวเมีย ผลัดเปลี่ยนเวรกันตัวละวัน มันไม่ยอมให้น้องตัวเมีย ซึ่งเป็นน้องเล็กของมันออกล่าเหยื่อด้วยตัวเอง เพราะกลัวจะได้รับอันตรายและพวกมันยังหวงน้องราวกับไข่ในหินก็มิปาน

ฝ่ายเจ้าจิ้งจอกตั้งแต่พ่อแม่ราชสีห์ตายไป มันก็กล้าที่จะผ่านมาทางถ้ำราชสีห์ บังเอิญวันหนึ่งได้เห็นราชสีห์สาวน้อยอยู่ในถ้ำตัวเดียว มันจึงเข้าไปหา พูดจาผูกมิตรไมตรี วันแล้ว วันเล่า จนจิ้งจอกหลงรักราชสีห์สาวน้อยอย่างหัวปักหัวปำ วันไหนไม่ได้เห็นหน้าขอให้ได้ผ่านหน้าถ้ำก็สุขใจ



เมื่อผูกมิตรไมตรีได้ระยะเวลาพอสมควร จิ้งจอกหนุ่มก็คิดจะบอกรัก และขอราชสีห์สาวแต่งงาน มันจึงพยายามรวบรวมความกล้า ลบล้างความกระดากอายออกจากใจ แล้วจึงตรงไปหาราชสีห์สาว พูดจาเกี้ยวพาราสี พร่ำพรรณนาต่าง ๆ นานา

"น้องจ๋า พี่จอกนี้รักน้องสีห์จริง ๆ นะ เดี๋ยวพี่จะให้ผู้ใหญ่มาขอน้องจะว่ายังไงจ๊ะ"

"พี่จอก เรามันคนละชั้นกัน ต่างเผ่าพันธุ์กัน เรารักกันไม่ได้หรอก" ราชสีห์สาวพูดอย่างไม่ใส่ใจ

"พี่รักน้องสีห์จริง ๆ นะ แม้เราจะต่างเผ่าพันธุ์ ต่างเชื้อชาติกัน แต่ความรักมันไม่มีพรหมแดน น้องสีห์จะไม่สงสารพี่บ้างเลยหรอ !" จิ้งจอกหนุ่มยังไม่ลดความพยายาม

"ฉันไม่สงสารพี่หรอก และไม่สนใจด้วย เรามันคนละชั้น" ราชสีห์สาวตัดบทอย่างไม่มีเยื่อใย

เจ้าจิ้งจอกเห็นว่าไม่ได้ผล จึงจำใจหอบความผิดหวังกลับถ้ำ แต่มันก็มาเกี้ยวพาราสีทุกวัน ในขณะที่พี่ๆ ของราชสีห์สาวออกล่าเหยื่อ จึงสร้างความกลุ้มอกกลุ้มใจให้ราชสีสาวยิ่งนัก จนเป็นที่ผิดสังเกตของพี่ ๆ ด้วยความห่วงใยมันจึงพากันถามน้องสาวตัวเดียวของมันว่า

"น้องเป็นอะไรไปหรือ! ดูน้องกลุ้มใจอยู่ มีอะไรก็บอกพี่ๆ มาเถิด อย่าปกปิดเลย"

"เอ้า... บอกพวกพี่มาสิ ใครรังแกน้องพี่ พวกพี่จัดการเอง" น้องสาวเงียบ พี่ ๆ จึงคะยั้นคะยอถาม และนางราชสีห์สาวน้อยก็ระบายความอัดอั้นตันใจให้พี่ ๆ ฟังอย่างละเอียด

"เฮ้ย ! มันขนาดนั้นเลยเหรอ มันชักจะมากไปแล้ว ไอ้จิ้งจอกสถุล ริบังอาจจีบน้องข้า เดี๋ยวจะต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก" บรรดาพี่ๆ พอได้ฟังน้องสาวบรรยายต่างก็พากันเดือดดาลอย่างยิ่ง

"น้องพี่ ไอ้เจ้าจิ้งจอกมันอยู่ไหน เดี๋ยวพี่จะจัดการมันเอง" ราชสีห์ผู้พี่ตัวหนึ่งถามน้องสาวด้วยความเดือดแค้น

"ใช่...ใช่...ใช่ พวกเราต้องจัดการมัน" บรรดาพี่ ๆ ต่างสนับสนุน

ราชสีห์ตัวพี่ใหญ่ เมื่อเห็นน้อง ๆ พากันเดือดดาลใจ จึงกล่าวเตือนว่า

"ใจเย็น ๆ น้องพี่ เมื่อน้องสาวเราไม่เล่นด้วย เจ้าจิ้งจอกจะทำอะไรได้"

"ไม่ได้พี่ ต้องจัดการมัน ไม่งั้นไม่หายแค้น ... เจ้าจิ้งจอกมันอยู่ไหนบอกพี่มาเร็ว" พี่ตัวหนึ่งคัดค้านพี่ใหญ่ แล้วหันไปถามน้องสาว



"เจ้าจิ้งจอกมันอยู่ในอากาศจ๊ะพี่" ราชสีห์สาวบอกตามความรุ้สึก เพราะเห็นถ้ำแก้วผลึกส่องแสงสว่างเหมือนกลางหาว

บรรดาพี่ ๆ ทั้งหมดยกเว้นพี่ใหญ่ จึงพากันกระโจนตรงไปยังถ้ำแก้ผลึก เมื่อไปถึงก็มองเห็นสุนัขจิ้งจอกอยู่ในถ้ำแก้วผลึก จึงพากันกระโจนใส่จนสุดแรง ทำให้หน้าอกกระแทกถ้ำแก้วผลึกหัวใจแตกตายหมดทั้ง 6 ตัว

"เอ ... สงสัยเจ้าจิ้งจอก คงไม่ได้อยู่ในอากาศแน่ ๆ น้อง ๆ เราไม่น่าบู่มบ่ามเลย" ราขสีห์พี่ใหญ่คิดและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ก็รู้ว่าสุนัขจิ้งจอกไม่ได้อยุ่ในอากาศ แต่อยู่ในถ้ำแก้วผลึก จึงแผดเสียงร้องดังก้องป่า สุนัขจิ้งจอกได้ยินเสียงราชสีห์ก็กลัวจนหัวใจแตกตาย

ชาติสุดท้าย สุนัขจิ้งจอกได้เกิดเป็นลูกชายช่างตัดผม นางราชสีห์สาวได้เกิดเป็นราชินีเมืองไฟศาลี พี่ชายใหญ่ได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้า

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า โทษของความไม่รอบคอบ กระทำอะไรโดยไม่พิจารณา ย่อมได้รับผลเสียมากกว่าผลดี ดังเช่น ราชสีห์ทั้ง 6 ตัว และการที่รักชอบ ผู้สูงศักดิ์กว่า ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก คนที่ไม่เจียมตัว มักทะเยอทะยานใผ่สูง ก็ย่อมจะพบความผิดหวัง ดังเช่นสุนัขจิ้งจอก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น