วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

โง่หรือฉลาด - นิทานชาดก ก่อนนอน

นิทานเรื่ิองนี้มาใน "กปายกฏฐิชาดก ทุกนิบาต"

ณ ชายแดนเมืองพาราณสี ของพระเจ้าพรหมทัต เกิดกลุ่มโจรร้ายออกอาละวาดเที่ยวปล้น สร้างความเดือดร้อนให้แก่อาณาประชาราษฎร์อย่างเหลือคณานับ ทหารรักษาชายแดนได้เข้าเฝ้ากราบทูลถวายรายงานว่า

"ขอเดชะ บัดนี้ชายแดนเกิดความเดือดร้อนหนัก" ด้วยมีโจรกลุ่มหนึ่งไม่เกรงพระราชอาญา ได้พากันไปเทียวปล้น ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ทหารรักษาดินแดนก็มิอาจจะต่อกรกับโจรกลุ่มนี้ได้ ขอพระองค์โปรดเสด็จไปดับทุกข์เข็ญด้วยเถิดพระเจ้าค่ะ"

"บังอาจมาก! ไอ้โจรกลุ่มนี้ มันหมิ่นพระราชานุภาพของเรา ท่านอำมาตย์ท่านจงไปจัดทัพให้พร้อม เราจะไปจัดการดับอหังการกลุ่มโจร" พระเจ้าพรหมทัต ทรงพิโรจน์และได้รับสั่งเสนาบดีให้เตรียมทัพ

เมื่อทุกอย่างพร้อม กระบวนทัพจึงได้ฤกษ์ออกเดินสู่ชายแดน พระเจ้าพรหมทัต รับสั่งให้หยุดพักเป็นระยะ เพราะหนทางที่ยกทัพไปนั้นไกลพอสมควรและทรงเกรงว่ากำลังพลจะเหนื่อยล้าเกินไป

ในเวลาหยุดพัก ณ ที่แห่งหนึ่ง พวกทหารเสบียง พวกทหารเสบียงได้นึ่งถั่วราชมาศใส่ไว้ในรางอาหารม้า มีลิงตัวหนึ่งแอบดูอยู่บนต้นไม้ มันเห็นว่าเป็นถั่วก็เกิดอยากกินขึ้นมาทันที



พอพวกทหารเผลอ เจ้าลิงก็ปีนจากต้นไม้อย่างรวดเร็ว คว้าเอาถั่วใส่ปากจนเต็มแก้ม 2 ข้างแล้วก็กำจนเต็มมือ 2 มือ รีบปีนไปบนต้นไม้ทันที

ด้วยความบังเอิญ เมื่อลิงขึ้นไปนั่งอยู่บนต้นไม้ มันทำถั่วราชมาศหลุดมือเม็ดหนึ่ง เจ้าลิงเกิดความเสียดายถั่วเม็ดนั้นมาก จึงคายถั่วในปาก และหว่านถั่วในกำมือทิ้ง แล้วรีบปีนลงจากต้นไม้เพื่อมาหาถั่วเมล็ดนั้น

แต่ไม่ว่ามันจะพยายามหาอย่างไรก็ไม่พบ จนอ่อนใจ ปีนขี้นไปนั่งเจ่าอยู่บนต้นไม้ พระเจ้าพรหมทัตเสด็จมาพบเข้า ทรงเห็นลิงมีอาการหงอยเศร้าซึม ทรงปริืวิตก (กังวล) ว่า จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับพระองค์ จึงรับสั่งให้ราชครูเข้าเฝ้า

"ท่านราชครู ลิงตัวนี้มันดูซึม ๆ มันจะเป็นลางร้านแก่เราไหม!"
ราชครูได้กำหนดตรวจตรา อย่างละเอียดทุกแง่มุม จึงกลาบทูลว่า

"ขอเดชะ เจ้าลิงตัวนั้นมันซึมเศร้าเพราะความโง่ของมัน มันขโมยถั่วราชมาศสำหรับมาจนเต็มแก้มทั้งสองข้าง และกำเอาจนเต็มมือ แล้วปีนขึ้นไปบนต้นไม้ บังเอิญถั่วเมล็ดหนึ่งหล่นจากมือมัน มันจึงทิ้งถั่วที่เหลือทั้งหมด แล้วลงมาหาถั่วเมล็ดนั้น แต่หาอย่างไรก็ไม่พบ มันจึงซึใเศร้า พระเจ้าค่ะ "

"เออแน่ะ ... เจ้าลิงมันอับปัญญาเอาของมากมาแลกของเพียงน้อยนิด ตัวเราขณะนี้ก็เช่นเดียวกัน เรายกทัพใหญ่เพื่อไปปราบโจรกระจอกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเหมือนเอาพิมเสนไปแลกเกลือ ซ้ำร้ายนี่ก็เข้าสู่ฤดูฝนแล้วการเดินทางก็ลำบาก ผลคงไม่คุ้มอย่างแน่นอน เหมือนลิงตัวนี้ที่เอาของมากมาแลกของเพียงนิดเดียว" พระเจ้าพรหมทัตได้สดับการถวายวิสัชชนา ก็ทรงใคร่ครวญด้วยพระสติปัญญาของพระองค์ เมื่องทรงเห็นว่า "ไม่คุ้ม" จึงรับสั่งให้ถอนทัพกลับพระนคร

ฝ่ายโจรชายแดน ได้ยินข่าวว่าพระเจ้าพรหมทัตยกทัพมาปราบต่างก็เกรงพระราชอาญาจึงพากันแตกหนีกระจัดกระจาย ชายแดนสงบสันติสุขอีกครั้ง


มาชาติสุดท้าย พระเจ้าพรหมทัตเกิดเป็นพระอานนท์ ราชครูได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้า

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนโง่เขลาเบาปัญญาย่อมไม่รู้ว่าสิ่งใดไม่ควร บางทีอาจจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปโดยขาดปัญญา อันจะนำผลเสียมาให้อย่างมากมาย เหมือนลิงโง่ดังกล่าว หากเป็นเช่นนี้ ก็เข้าข่ายว่า "โง่แต่อวดฉลาด" ก่อนที่จะทำสิ่งใดลงไป ต้องคิดถึงความเหมาะสม สิ่งใหนทำแล้วตนไม่เดือดร้อน ไม่เบียดเบียนคนอื่น สิ่งนั้นเหละสมควร งานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าได้เอากำลังส่วนมากทุ่มใส่ จะเข้าสุภาษิตไทยที่ว่า "ขี่ช้างจับตั๊กแตน"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น