
เมื่อครั้งอดีตกาล ณ ริมฝั่งมหาสมุทรอันอุดมสมบูรณ์ มีกา 2 ผัวเมียอาศัยอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งริมฝั่งมหาสมุทร อย่างสุขสำราญ ด้วยมีอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ กินอย่างอิ่มหมีพีมันอยู่ทุกวี่วัน
ณ วันหนึ่งชาวบ้านได้พากันรำลึกนึกถึงบุญคุณของพญานาค ที่ได้ช่วยบรรดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ข้าวกล้าได้ผลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงได้พร้อมใจกันจัดพิธีบวงสรวงพญานาค ในพิธีนั้นชาวบ้านต่างพากันนำอาหารอันรสเลิศนานาชนิดมาบวงสรวง
"โอ้โห! วันนี้ช่างเป็นลาภปากอย่างเหลือหลาย น้องรัก ...ดูสิ อาหารดี ๆ ทั้งนั้น " กาผู้เป็นผัวกล่าวกับนางกาด้วยน้ำลายสอ
แล้วกาทั้งสองก็พากันบนลงไปกินเครื่องบวงสรวงอย่างสุขสำราญและเมื่ออิ่มหนำแล้วก็พากันบินกลับรัง แต่นางกาเกิดอยากเล่นน้ำ จึงชวนกาตัวผัวไปเล่นน้ำทะเล
ในขณะที่กาทั้งคู่เล่นน้ำอย่างเพลิดเพลิน พลันคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้าใส่เต็มเปา นางกาไม่ทันระวังตัวจึงถูกคลื่นกลืนลงสู่ท้องมหาสมุทรทันที
"โธ่! เมียรักของพี่ ... พี่ขาดเธอไป พี่จะอยู่อย่างไร" กาผู้เป็นผัว เมื่อเห็นเมียรักถูกคลื่นซัดจมหายไปต่อหน้าต่อตา ก็สุดที่จะกลั้นความเศร้าเสียใจเอาไว้ได้
กาทั้งหนุ่มสาว ทั้งแก่เฒ่า เมื่อเห็นกาหนุ่มรำพันอย่างเศร้าโศก ต่างก็เข้ามาไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"น้า ...น้า... น้าร้องไห้ทำไมหรือ! " กาตัวหนึ่งถาม
"ฮือ ๆๆๆ... " กาหนุ่มยิ่งคร่ำครวญและร้องไห้โฮ กล่าวปนสะอื้นน้ำตานองหน้าว่า
"เมียรักของน้าถูกคลื่นซัดจมลงไป และถูกปลาฮุบเป็นเหยื่อ โดยที่น้าไม่มีโอกาสได้ช่วยเหลือ นางตายไปต่อหน้าต่อตา ฮือ ๆๆๆ..."
"นี่ไอ้หนุ่ม! เอ็งไม่ต้องเสียใจ เดี๋ยวพวกเราจะช่วยกันวิดน้ำมหาสมุทรให้แห้ง เราจะต้องเห็นศพนางบ้างละวะ" ลุงกาแสดงความฉลาดออกมาด้วยความเห็นใจกาหนุ่ม
"ใช่... พวกเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ มันต้องสำเร็จแน่นอน บรรดาสมาชิกกา ต่างกล่าวสนับสนุนความคิดของลุงกา"
ดังนั้น กาทุกตัวจึงช่วยกันเอาจงอยปากอมน้ำในมหาสมุทรไปทิ้งบนฝั่ง เที่ยวแล้ว เทียวเล่า จนกาทุกตัวปากแห้งผาก คางล้า ตาแดง แต่น้ำในมหาสมุทรก็ไม่มีท่านว่าจะลดลง ฝูงกาจึงเริ่มท้อใจ
"พวกเราจะทำอย่างไรกันดี" ลุงกาเจ้าของความคิดวิดน้ำจากมหาสมุทรกล่าวอย่างอ่อนใจ
"โอ้! เมียรัก พี่ไม่อาจช่วยเธอได้ พี่แสนเสียดายเธอเหลือเกิน พี่จะทำอย่างไรดี" กาหนุ่มเมียตายรำพัน
ฝูงกาต่างรู้สึกสงสารและเห็นใจเจ้ากาหนุ่มจึงพากันเตือนสติ ให้กำลังใจ ในขณะนั้นเทวดาตนหนึ่ง ได้แสดงตัวด้วยเพศที่น่ากลัว แล้วกล่าวว่า
"ไอ้กาทั้งหลาย พวกเจ้าจะเสียใจไปทำไม นี่เป็นเรื่องธรรมดา ทุกชีวิตต้องตาย การเศร้าโศกเสียใจ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้หรอก จงหมั่นทำความดีไว้ ตายไปคนจะได้สรรเสริญ และได้เป็นเสบียงเดินทางไปในสัมปรายภพ (ภพหน้า)"

ฝูงกาได้ยินเช่นนั้น ต่างตกใจ แตกตื่นบินหนีอย่างชุลมุนวุ่นวาย มาชาติสุดท้ายกาทั้งหลายได้มาเกิดเป็นภิกษุแก่ ที่รำพันถึงเมียเก่าของเพื่อนที่ตายไป ส่้วนเทวดาได้มาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เหลือวิสัย โดยไม่คำนึงถึง "ศักยภาพ" ของตนแม้ทำไปจะเหนื่อยเปล่า ถึงจะใช้ความพยายามสักปานใดก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น