การรำพึงถึงสิ่งที่สูยหายไปแล้ว การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งโดยปราศจากความรอบรู้ ไม่รู้จักประมาณตน ประมาณงาน ย่อมจะเหนื่อยเปล่า ไม่เกิดประโยชน์อันใด อยู่ใน "กาชาดก เอกวิบาต"
เมื่อครั้งอดีตกาล ณ ริมฝั่งมหาสมุทรอันอุดมสมบูรณ์ มีกา 2 ผัวเมียอาศัยอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งริมฝั่งมหาสมุทร อย่างสุขสำราญ ด้วยมีอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ กินอย่างอิ่มหมีพีมันอยู่ทุกวี่วัน
ณ วันหนึ่งชาวบ้านได้พากันรำลึกนึกถึงบุญคุณของพญานาค ที่ได้ช่วยบรรดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ข้าวกล้าได้ผลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงได้พร้อมใจกันจัดพิธีบวงสรวงพญานาค ในพิธีนั้นชาวบ้านต่างพากันนำอาหารอันรสเลิศนานาชนิดมาบวงสรวง
"โอ้โห! วันนี้ช่างเป็นลาภปากอย่างเหลือหลาย น้องรัก ...ดูสิ อาหารดี ๆ ทั้งนั้น " กาผู้เป็นผัวกล่าวกับนางกาด้วยน้ำลายสอ
แล้วกาทั้งสองก็พากันบนลงไปกินเครื่องบวงสรวงอย่างสุขสำราญและเมื่ออิ่มหนำแล้วก็พากันบินกลับรัง แต่นางกาเกิดอยากเล่นน้ำ จึงชวนกาตัวผัวไปเล่นน้ำทะเล
ในขณะที่กาทั้งคู่เล่นน้ำอย่างเพลิดเพลิน พลันคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้าใส่เต็มเปา นางกาไม่ทันระวังตัวจึงถูกคลื่นกลืนลงสู่ท้องมหาสมุทรทันที
"โธ่! เมียรักของพี่ ... พี่ขาดเธอไป พี่จะอยู่อย่างไร" กาผู้เป็นผัว เมื่อเห็นเมียรักถูกคลื่นซัดจมหายไปต่อหน้าต่อตา ก็สุดที่จะกลั้นความเศร้าเสียใจเอาไว้ได้
กาทั้งหนุ่มสาว ทั้งแก่เฒ่า เมื่อเห็นกาหนุ่มรำพันอย่างเศร้าโศก ต่างก็เข้ามาไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"น้า ...น้า... น้าร้องไห้ทำไมหรือ! " กาตัวหนึ่งถาม
"ฮือ ๆๆๆ... " กาหนุ่มยิ่งคร่ำครวญและร้องไห้โฮ กล่าวปนสะอื้นน้ำตานองหน้าว่า
"เมียรักของน้าถูกคลื่นซัดจมลงไป และถูกปลาฮุบเป็นเหยื่อ โดยที่น้าไม่มีโอกาสได้ช่วยเหลือ นางตายไปต่อหน้าต่อตา ฮือ ๆๆๆ..."
"นี่ไอ้หนุ่ม! เอ็งไม่ต้องเสียใจ เดี๋ยวพวกเราจะช่วยกันวิดน้ำมหาสมุทรให้แห้ง เราจะต้องเห็นศพนางบ้างละวะ" ลุงกาแสดงความฉลาดออกมาด้วยความเห็นใจกาหนุ่ม
"ใช่... พวกเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ มันต้องสำเร็จแน่นอน บรรดาสมาชิกกา ต่างกล่าวสนับสนุนความคิดของลุงกา"
ดังนั้น กาทุกตัวจึงช่วยกันเอาจงอยปากอมน้ำในมหาสมุทรไปทิ้งบนฝั่ง เที่ยวแล้ว เทียวเล่า จนกาทุกตัวปากแห้งผาก คางล้า ตาแดง แต่น้ำในมหาสมุทรก็ไม่มีท่านว่าจะลดลง ฝูงกาจึงเริ่มท้อใจ
"พวกเราจะทำอย่างไรกันดี" ลุงกาเจ้าของความคิดวิดน้ำจากมหาสมุทรกล่าวอย่างอ่อนใจ
"โอ้! เมียรัก พี่ไม่อาจช่วยเธอได้ พี่แสนเสียดายเธอเหลือเกิน พี่จะทำอย่างไรดี" กาหนุ่มเมียตายรำพัน
ฝูงกาต่างรู้สึกสงสารและเห็นใจเจ้ากาหนุ่มจึงพากันเตือนสติ ให้กำลังใจ ในขณะนั้นเทวดาตนหนึ่ง ได้แสดงตัวด้วยเพศที่น่ากลัว แล้วกล่าวว่า
"ไอ้กาทั้งหลาย พวกเจ้าจะเสียใจไปทำไม นี่เป็นเรื่องธรรมดา ทุกชีวิตต้องตาย การเศร้าโศกเสียใจ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้หรอก จงหมั่นทำความดีไว้ ตายไปคนจะได้สรรเสริญ และได้เป็นเสบียงเดินทางไปในสัมปรายภพ (ภพหน้า)"
ฝูงกาได้ยินเช่นนั้น ต่างตกใจ แตกตื่นบินหนีอย่างชุลมุนวุ่นวาย มาชาติสุดท้ายกาทั้งหลายได้มาเกิดเป็นภิกษุแก่ ที่รำพันถึงเมียเก่าของเพื่อนที่ตายไป ส่้วนเทวดาได้มาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เหลือวิสัย โดยไม่คำนึงถึง "ศักยภาพ" ของตนแม้ทำไปจะเหนื่อยเปล่า ถึงจะใช้ความพยายามสักปานใดก็ตาม
วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น